วันอังคารที่ 29 กรกฎาคม พ.ศ. 2557

10 สูตร วิธีทำน้ำมะนาวโซดาเครื่องดื่มล้างพิษ

1. น้ำมะนาวโซดา

          ก่อนที่จะไปสนุกกับเครื่องดื่มอื่น ๆ ที่มีน้ำมะนาวโซดาเป็นส่วนผสม ลองมาดูน้ำมะนาวโซดาแบบพื้นฐานกันก่อนเลย ว่าที่เขาฮิตดื่มกันเนี่ยมีส่วนผสมอะไรบ้าง

ส่วนผสม
          น้ำตาลทราย
          น้ำ
          น้ำมะนาวคั้น
          โซดา
          น้ำแข็ง
 วิธีทำ
         1. ทำน้ำเชื่อม โดยใส่น้ำตาลทรายและน้ำลงในหม้อ นำขึ้นตั้งไฟปานกลาง คนผสมจนน้ำตาลทรายละลาย พักทิ้งไว้จนเย็น เตรียมไว้ 

         2. ใส่น้ำแข็งลงในแก้ว ตามด้วยน้ำเชื่อม น้ำมะนาว และโซดา คนผสมให้เข้ากัน เติมน้ำแข็ง พร้อมดื่ม
............................................................



2. น้ำผึ้งมะนาวโซดา (Honey Lime Soda)

            น้ำผึ้งมะนาวโซดา น่าจะเป็นเครื่องดื่มที่คุ้นเคย สำหรับคนที่ไม่สามารถดื่มโซดาเพียว ๆ ได้น่าจะเหมาะ มีขายให้เราได้ซื้อมาดื่มกันอยู่บ่อย ๆ รสชาติหวาน ๆ เปรี้ยว ๆ ชุ่มคอดีเหลือเกิน แต่ใครที่อยากจะลองทำเองเพื่อให้มั่นใจว่า น้ำผึ้งที่ผสมลงไปนั้น แท้ 100% ก็ลงมือกันเลย

 ส่วนผสม
          น้ำผึ้ง
          น้ำมะนาว
          โซดา
          น้ำแข็ง
          มะนาวฝานเป็นชิ้นบาง และใบสะระแหน่ สำหรับแต่ง

วิธีทำ

         ผสมน้ำผึ้งกับน้ำมะนาวให้เข้ากัน เทใส่แก้วที่มีน้ำแข็ง ตามด้วยโซดาแช่เย็นจัด แต่งด้วยมะนาวฝาน และใบสะระแหน่ พร้อมดื่ม


.....................................................




3. แตงโมมะนาวโซดา (Watermelon Lime Soda)

           เครื่องดื่มแก้วนี้จับแตงโมเนื้อหวานฉ่ำเข้ามาผสมกับมะนาวและโซดา เพิ่มหวานสดชื่นขึ้นอีกเป็นกอง แถมแตงโมมะนาวโซดาแก้วนี้ยังสามารถทำเป็นค็อกเทลได้ด้วยนะคะ แค่เติมวอดก้าลงไปอีกสักหน่อยก็ฟินแล้ว

ส่วนผสม
          แตงโมแกะเม็ด หั่นเป็นชิ้นเล็ก ๆ 4 ถ้วย
          โซดาแช่เย็นจัด 2 ถ้วย
          น้ำตาลทราย 1/2 ถ้วย
          น้ำ 1/4 ถ้วย
          น้ำมะนาวคั้น 1/4 ถ้วย (จากมะนาว 2 ลูก)
          เปลือกมะนาว 1 ลูก

วิธีทำ

         1. ใส่น้ำตาลทราย น้ำ น้ำมะนาวคั้น และเปลือกมะนาวลงในหม้อ นำขึ้นตั้งไฟอ่อน คนผสมจนน้ำตาลทรายละลาย ยกลงจากเตา พักทิ้งไว้จนเย็น
          
         2. ใส่เนื้อแตงโมลงปั่นในเครื่องปั่น ปั่นจนละเอียด เทใส่เหยือก เติมน้ำเชื่อมมะนาว และโซดา คนผสมให้เข้ากัน ชิมรสตามชอบ เทใส่แก้ว เติมน้ำแข็ง พร้อมเสิร์ฟ



........................................................




4. ราสป์เบอร์รีมะนาวโซดา (Raspberry Key Lime Italian Soda)
          

          เอาใจคนที่ชอบเครื่องดื่มแบบเปรี้ยวจี๊ด คงจะต้องยกให้ ราสป์เบอร์รีมะนาวโซดา แก้วนี้เลย แถมสีสันยังสดใส เหมาะจะทำเป็นเครื่องดื่มต้อนรับหน้าร้อนสุด ๆ

ส่วนผสม
          
          ราสป์เบอร์รีสด 450 กรัม
          น้ำตาลทราย 1 ถ้วย
          มะนาว 2 ลูก
          น้ำ 1/3 ถ้วย
          โซดา

วิธีทำ

          1. ทำน้ำเชื่อมราสป์เบอร์รี โดยใส่ราสป์เบอร์รีสด และน้ำตาลทรายลงในหม้อ นำขึ้นตั้งไฟปานกลาง คนผสมให้เข้ากันพอนิ่ม จากนั้นขูดผิวมะนาวใส่ลงไป ตามด้วยน้ำมะนาว ใช้ช้อนค่อย ๆ บดเนื้อราสป์เบอร์รีจนละเอียด เติมน้ำลงไป เคี่ยวส่วนผสมประมาณ 5-7 นาที จนส่วนผสมใส และเหนียว ยกลงกรองผ่านตะแกรง เอาเฉพาะน้ำ เตรียมไว้
          
         2. ใส่โซดาลงในแก้ว ประมาณ 3/4 แก้ว เติมน้ำเชื่อมราสป์เบอร์รีลงไป 2 ช้อนโต๊ะ ใส่น้ำแข็ง พร้อมเสิร์ฟ



..................................................




5.เลมอนมินต์ม็อกเทล (LemonMintMocktail)

          เครื่องดื่มแก้วนี้น่าจะสร้างความสดชื่นได้ดีทีเดียว ที่นอกจากจะได้รสชาติเปรี้ยวซ่าจากเลมอนและโซดาแล้ว ยังได้กลิ่นมินต์หอมจาก ๆ จากใบสะระแหน่อีกด้วย ถึงแม้จะไม่ได้ใช้มะนาวโดยตรง แต่คุณประโยชน์ไม่แพ้กันแน่ ๆ

ส่วนผสม
          
          เลมอนเหลือง 1 ลูก
          ใบสะระแหน่ (เด็ดเป็นใบ)
          น้ำเชื่อม
          น้ำแข็ง
          โซดา


วิธีทำ

         1. หั่นเลมอนเหลืองเป็นชิ้น ๆ บีบน้ำเลมอนลงในอ่างผสมพร้อมเปลือก ตามด้วยใส่ใบสะระแหน่ลงไป จากนั้นใช้ไม้ บดส่วนผสมให้เข้ากัน
          
         2. เทส่วนผสมเฉพาะของเหลวลงในเชคเกอร์ ใส่น้ำแข็งตามลงไปแล้วเขย่าให้เข้ากัน เทส่วนผสมใส่ลงในแก้วที่มีน้ำแข็งเตรียมไว้ ประมาณ 1/2 แก้ว ตามด้วยโซดาจนเกือบเต็ม ใส่เลมอนเหลืองฝานเป็นชิ้นบางลงในแก้ว แต่งใบสะระแหน่ให้สวยงาม พร้อมดื่ม



.......................................................





6. เกรปฟรุตมะนาวโซดา (Grapefruit Lime Soda)

           เครื่องดื่มแก้วนี้สีสันสดใส รสชาติเปรี้ยวจี๊ดถึงใจ แถมยังหอมกลิ่นจากเกรปฟรุต มะนาว และเลมอนด้วย ที่นอกจากจะสดชื่นแล้ว ยังผ่อนคลายเบา ๆ อีกด้วยนะจ๊ะ
ส่วนผสม
          
          เกรปฟรุต 3 ลูก
          เลมอน 2 ลูก
          มะนาว 1 ลูก
          โซดากลิ่นมะนาว 4 ถ้วย

วิธีทำ

         1. คั้นน้ำเกรปฟรุต น้ำเลมอน และน้ำมะนาว จากนั้นเทใส่แก้ว คนผสมให้เข้ากัน นำเข้าแช่เย็น เตรียมไว้
          
         2. ใส่น้ำผลไม้ลงในแก้ว ตามด้วยโซดา คนผสมให้เข้ากัน พร้อมเสิร์ฟ



.............................................





7. น้ำขิงมะนาวโซดา (ginger-lime-soda)

            น้ำขิงมะนาวโซดาแก้วนี้ เป็นเครื่องดื่มล้างพิษที่จะช่วยเรียกคืนความสดชื่นให้กับร่างกายที่หนัก แอลกอฮอล์ ยิ่งถ้าใครชอบกินขิง รสชาติเผ็ดร้อนอยู่แล้วก็น่าจะถูกอกถูกใจไม่น้อยเลยล่ะ

ส่วนผสม

          ขิงขูดละเอียด 3/4 ถ้วย (หรือประมาณ 4 ออนซ์)
          น้ำมะนาว 1 ถ้วย
          น้ำ 1 ถ้วย
          น้ำตาลทราย 1 ถ้วย
          น้ำแข็ง
          โซดาแช่เย็นจัด

วิธีทำ

         1. ทำน้ำเชื่อมโดย นำกระทะขึ้นตั้งไฟปานกลาง ใส่น้ำตาลทรายและน้ำ คนผสมจนน้ำตาลทรายละลายเป็นน้ำเชื่อม หรือนานประมาณ 2 นาที ยกลงจากเตา
          
         2. ใส่ขิงขูดลงในน้ำเชื่อมร้อน ๆ คนผสมให้เข้ากัน พักทิ้งไว้ประมาณ 20 นาที จนขิงเข้ากันดีกับน้ำเชื่อม
          
         3. หลังจากครบเวลา เติมน้ำมะนาว คนผสมให้เข้ากัน ยกลงกรองผ่านกระชอนหรือตะแกรงเอาเฉพาะน้ำ จากนั้นเทน้ำขิงมะนาวใส่แก้วที่มีน้ำแข็งประมาณ 2/3 แก้ว ตามด้วยโซดาจนเต็มแก้ว พร้อมดื่ม


..........................................




8. เชอร์รีมะนาวโซดา (Cherry Lime Soda)

          เชอร์รีมะนาวโซดาแก้วนี้อาจจะสะดวกสำหรับคนที่หาซื้อผลเชอร์รีสด ๆ ไม่ได้ แถมยังใช้สารให้ความหวานแทนน้ำตาลอีกด้วย ดีต่อสุขภาพจริง ๆ
ส่วนผสม
          น้ำเชอร์รี 100% 1/3 ถ้วย
          น้ำมะนาว 1/4 ช้อนชา
          สารให้ความหวานแทนน้ำตาล 1 ซอง
          โซดา
          น้ำแข็ง

วิธีทำ

        ผสมน้ำเชอร์รี น้ำมะนาว และน้ำตาลเทียม คนผสมให้เข้ากัน เทลงแก้ว ตามด้วยน้ำแข็ง และโซดา คนผสมให้เข้ากัน พร้อมเสิร์ฟ


...................................................




9. น้ำอ้อยมะนาวโซดา (Sugar Cane lime Soda)

           ใครจะไปเชื่อว่า น้ำอ้อยบ้าน ๆ เนี่ย จะสามารถมาผสมรวมกับน้ำมะนาวและโซดา ออกมาเป็นเครื่องดื่มที่อร่อยอย่างไม่น่าเชื่อ ว่าแต่รสชาติจะเป็นอย่างไร ก็ต้องลองกันสักหน่อยแล้ว เป็นสูตรเด็ดมาจากนิตยสาร Health & Cuisine
ส่วนผสม
          น้ำอ้อยคั้นสด 3 ถ้วย
          เลมอนหั่นซีก 2 ซีก
          โซดา 1/2 ถ้วย
          น้ำแข็งตามชอบ

วิธีทำ

          บีบเลมอนใส่ลงในน้ำอ้อย คนผสมห้เข้ากัน ใส่น้ำแข็งและเปลือกเลมอนที่เหลือลงแก้ว รินน้ำอ้อยลงไป ตามด้วยโซดา พร้อมเสิร์ฟ

....................................................





10. ชามะนาวโซดา (lime-mint-tea-cooler)

          เอาใจคนที่ชอบดื่มชามะนาวด้วยการเติมโซดาลงไปให้สดชื่นยิ่งขึ้น แถมยังได้กลิ่นมินต์หอม ๆ จากใบสะระแหน่อีกด้วย

ส่วนผสม

          น้ำตาลทราย 2/3 ถ้วย
          น้ำ 2/3 ถ้วย
          ใบสะระแหน่ เด็ดเป็นใบ 1 ถ้วย
          ชาสำเร็จรูปสำหรับชงดื่ม ตามชอบ 8 ซอง
          น้ำมะนาวคั้น 1/4 ถ้วย
          โซดา
          น้ำแข็ง

วิธีทำ


         1. ทำน้ำเชื่อมกลิ่นมินต์ โดยใส่น้ำตาลทรายและน้ำลงในหม้อ นำขึ้นตั้งไฟปานกลาง คนผสมจนน้ำตาลทรายละลาย ใส่ใบสะระแหน่ คนผสมจนเป็นน้ำเชื่อม และมีกลิ่นมินต์ ยกลงจากเตา พักทิ้งไว้จนเย็น กรองเอาใบสะระแหน่ออก เตรียมไว้
          
         2. ใส่น้ำร้อนจัดลงในถ้วย ใส่ชาสำเร็จรูปลงในถ้วย รอจนชาเปลี่ยนสี ประมาณ 3 นาที
          
         3. ผสมน้ำเชื่อมกับน้ำชา และน้ำมะนาว ใส่มะนาวฝานบาง และใบสะระแหน่เล็กน้อย คนผสมให้เข้ากัน จากนั้นเติมโซดาลงไป ชิมรสตามชอบ เทใส่ลงในแก้วที่มีน้ำแข็ง พร้อมเสิร์ฟ

.........................................

 

15 สูตรอาหารคลีน เพื่อสุขภาพ กินได้ไม่มีเบื่อ


1. ถั่วฝักยาวอบกุ้ง (hrimp-and-Beans)
           
          อาหาร จานจัดจ้านไปด้วยสีเขียวของถั่วฝักยาวหั่นชิ้นพอดีคำ อบกับกุ้งตัวตัว ๆ จนมีสีส้มสวยส่งกลิ่นหอมกรุ่นของยี่หร่า ผสมกับเลมอนลูกสีเหลืองสดใสหั่นเป็นชิ้นพอดีคำ ถั่วฝักยาวอบกุ้งจานนี้เลยมีอาหารหลากสีหน้าตาดีใช้ได้

สิ่งที่ต้องเตรียม

          ถั่วฝักยาวตัดเป็นท่อนสั้น 400-500 กรัม

          น้ำมันมะกอก ชนิดเอ็กซ์ตร้า เวอร์จิ้น 2 ช้อนโต๊ะ

          รากผักชีโขลกละเอียด 1/2 ช้อนชา

          ยี่หร่าป่น 1/2 ช้อนชา

          เกลือป่น 2 ช้อนชา

          พริกไทยดำบด 1 ช้อนชา

          พริกป่น 1/8 ช้อนชา

          กุ้งสดปอกเปลือก 450-500 กรัม

          ผิวเลมอนสดขูด 1 ลูก           


วิธีทำ

         1. เปิดเตาอบที่อุณหภูมิ 425 องศาฟาเรนไฮท์ เตรียมไว้

         2. คลุกเคล้าถั่วฟักยาวกับน้ำมันมะกอก 1 ช้อนโต๊ะ ใส่รากผักชี ยี่หร่าป่น เกลือป่น 1 ช้อนชา พริกไทยดำสด 1/2 ช้อนชา และพริกป่น คนผสมให้เข้ากัน

         3. คลุกเคล้ากุ้งกับน้ำมันมะกอก ผิวเลมอน เกลือป่น และพริกไทยดำโขลกละเอียดที่เหลือลงไปผสมให้เข้ากัน

         4. ทาน้ำมันมะกอกบาง ๆ ลงในถาดอบ แล้ววางส่วนผสมถั่วฝักยาว นำเข้าอบประมาณ 10 นาที พอครบเวลา นำออกจากเตา พลิกกลับด้านเพื่อให้ถั่วสุกอย่างทั่วถึง จากนั้นวางกุ้งที่ปรุงรสแล้วทับลงไป นำเข้าอบนานประมาณ 8-10 นาที นำออกจากเตา บีบน้ำเลมอนลงไปประมาณ 1/2 ลูก คลุกเคล้าให้เข้ากัน พร้อมเสิร์ฟ



                  ....................................................................................




2. สารพัดผักอบชีส (Summer Vegetable Tian)

                      มัน ฝรั่งวางสลับกับต้นหอมหั่นแว่นอบชีสซะจนยืดและหอมกรุ่น กัดเข้าไปแต่ละคำก็อร่อยล้ำจนลืมไปซะสนิทว่าเป็นอาหารคลีนเพื่อสุขภาพ แต่ถึงแม้จะมีชีสอิตาเลียนอยู่แน่นขนาดนี้ ก็ใช่ว่าจะไม่มีประโยชน์ต่อสุขภาพนะจ๊ะ
 

สิ่งที่ต้องเตรียม

          น้ำมันมะกอก 1 ช้อนโต๊ะ

          หอมใหญ่หั่นเต๋า 1 ลูก

          กระเทียมสับละเอียด 1 ช้อนชา

          มันฝรั่ง สไลซ์บาง 1 หัว

          ซูกินี (Zucchini) หรือแตงกวาญี่ปุ่น สไลซ์บาง  1 ลูก

          พริกฝรั่งสีเหลือง สไลซ์บาง  1 ลูก

          มะเขือเทศ สไลซ์บาง  1 ลูก

          ใบไทม์แห้ง 1 ช้อนชา

          เกลือป่นและพริกไทยป่น

          พาร์มีซานชีส 1 ถ้วย


วิธีทำ


         1. เปิดเตาอบที่อุณหภูมิ 400 องศาฟาเรนไฮท์ เตรียมไว้

         2. ผสมหอมใหญ่หันเต๋า กระเทียมสับ และน้ำมันมะกอก คนผสมให้เข้ากัน

         3. ฉีดสเปรย์กันติดที่ถาดสำหรับอบ ตักส่วนผสมหอมใหญ่กับกระเทียมรองไว้ด้านล่าง วางเรียงผักที่หั่นไว้ทีละชิ้นจนเต็ม โรยใบไทม์ เกลือป่น และพริกไทยป่น

         4. คลุมถาดด้วยกระดาษฟอยล์ นำเข้าอบนานประมาณ 30 นาที จากนั้นนำออกมาโรยพาร์มีซานชีสให้ทั่วแล้วอบต่ออีก 15-20 นาที จนชีสละลายและเป็นสีเหลืองทอง

..........................................................................................





3. อกไก่อบกับสลัดซาลซา (Baked Chicken with Cucumber Salsa)

                อกไก่เนื้อแน่น ๆ อบกับเครื่องปรุงรสสูตรพิเศษกินคู่กับซาลซา หรือสลัดแตงกวาน้ำใส กลายเป็นเมนูมื้อหนักที่อิ่มอร่อยแต่เบาแคลอรี่

สิ่งที่ต้องเตรียม

          เนื้ออกไก่ 4 ชิ้น

          น้ำมันพืช 2 ช้อนโต๊ะ

          เกลือป่น

          แตงกวาหั่นเต๋า 2 ลูก

          พริกเหลืองหั่นเต๋า 1 ลูก

          หอมแดงหั่นเต๋า 1/2 ลูก

          ผักชีซอย

          เกลือป่น 1/2 ช้อนชา

          ผงปรุงรสกระเทียม 1 ช้อนชา

          น้ำมะนาว 1 ช้อนชา


วิธีทำ


         1. เทน้ำมันพืชลงในถาดสำหรับอบ วางอกไก่ตามลงไป แล้วนำเข้าเตาอบนานประมาณ 20 นาที นำออกจากเตา ตักใส่จาน เตรียมไว้

         2. ผสมแตงกวา พริกเหลือง หอมแดง ผักชีซอย เกลือป่น ผงปรุงรสกระเทียม และน้ำมะนาว เข้าด้วยกัน นำไปแช่เย็น เตรียมไว้

         3. เมื่อไก่สุกนำมาจัดใส่จาน ราดด้วยซาลซา พร้อมเสิร์ฟ



............................................................................................





4. ไข่ต้มมื้อเช้าเพื่อสุขภาพ (Health Egg Breakfast)
                      
                  อาหาร เช้าง่าย ๆ แต่ได้พลังงานในระดับพอดีแถมยังให้แคลอรี่นิดเดียว กับขนมปังโฮลวีทแผ่นบางปิ้งกรอบ วางทับด้วยไข่ต้มสุก ตกแต่งด้วยมะเขือเทศสไลซ์เป็นแว่นแผ่นพอดี ก่อนกินก็โรยพริกไทยดำและเกลือป่นปรุงรสเล็กน้อย เหมาะกับคนกำลังไดเอตมาก ๆ เลยจ้า

สิ่งที่ต้องเตรียม

          ขนมปังโฮลวีท

          ไข่ไก่ 1 ฟอง

          มะเขือเทศสไลซ์บาง 2 ชิ้น

          เกลือและพริกไทยดำป่น สำหรับโรยหน้า


วิธีทำ


         1. ปิ้งขนมปังโฮลวีทจนกรอบตามชอบ เตรียมไว้

         2. ต้มไข่จนสุกตามต้องการ ปอกเปลือก ผ่าครึ่ง เตรียมไว้

         3. วางขนมปังปิ้งกรอบ ทับด้วยมะเขือเทศสไลซ์ ไข่ต้มสุก โรยด้วยเกลือและพริกไทยดำป่น พร้อมเสิร์ฟ


...................................................................................




5. ซุปดอกกะหล่ำ (Creamy Garlic Mashed Cauliflower)
           
          แม้หน้าตาจะคล้ายโจ๊กบ้าน ๆ แต่ขอบอกเลยว่า ถ้วยนี้นี่ไม่มีคาร์โบไฮเดรตจากข้าวนะคะ แต่เป็นไฟเบอร์และวิตามินจากดอกกะหล่ำที่นำมาบดละเอียดกวนเป็นซุปดอกกะหล่ำ ผสมกลิ่นหอม ๆ ของผงกระเทียม จะกินเป็นมื้อเช้าเบา ๆ หรือมื้อเย็นสำหรับคนลดน้ำหนักก็ได้

สิ่งที่ต้องเตรียม

          ดอกกะหล่ำ หั่นเป็นชิ้นเล็ก 1 หัว

          ครีมชีส 4 ออนซ์

          เนยไขมันต่ำ 3 ช้อนโต๊ะ

          ผงปรุงรสกระเทียม 2 ช้อนชา

          ออริกาโน่ 1 ช้อนชา

          ชีสขูด สำหรัยโรยหน้า


วิธีทำ


         1. ต้มดอกกะหล่ำในน้ำเดือดจนผักนิ่ม ประมาณ 10 นาที

         2. ใส่ดอกกะหล่ำลงในเครื่องปั่น ตามด้วยครีมชีส เนย ผงปรุงรสกระเทียม และออริกาโน่ ปั่นผสมจนเนียนละเอียดเป็นเนื้อครีม เทใส่ถ้วย คนผสมให้เข้ากัน โรยใบออริกาโน่ และชีสขูด พร้อมเสิร์ฟ

.......................................................................



 6. มันเทศอบเครื่องพริกไทยดำ (Sweet Potato Cubes)
           
          เมนูกินเล่นเพลิน ๆ ไม่ต้องกลัวอ้วนเพราะเป็นมันเทศที่แม้จะเป็นแป้งแต่ก็แฝงคุณประโยชน์ไว้ เพียบ ทั้งวิตามิน เบต้าแคโรทีน พร้อมไฟเบอร์ที่มากมายนับไม่ถ้วน และพอนำมาปรุงรสสักนิดพร้อมอบกับพริกไทยดำให้สุกได้ที่ อื้อหือ ! อร่อยเหาะจริง ๆ นะขอบอก

สิ่งที่ต้องเตรียม

          มันเทศ หั่นเป็นชิ้นพอดีคำ 1 หัว

          น้ำมันมะกอก 1 ช้อนโต๊ะ

          เกลือและพริกไทยป่น


วิธีทำ


         1. เปิดเตาอบที่อุณหภูมิ 400 องศาฟาเรนไฮท์ เตรียมไว้

         2. วางมันเทศลงในถาดอบ ราดน้ำมันมะกอกลงไปคลุกเคล้าให้เข้ากัน จากนั้นปรุงรสด้วยเกลือป่นและพริกไทยดำ จากนั้นนำเข้าอบนานประมาณ 15-20 นาที นำออกมาพลิกกลับด้าน นำเข้าอบต่ออีก 15-20 นาที นำออกจากเตา จัดใส่จาน พร้อมเสิร์ฟ

 ............................................................................



7. พายฟักทองข้าวโอ๊ต(Pumpkin Pie Oatmeal)
             
          พาย ฟักทองที่หน้าตาคล้ายพุดดิ้งไม่เบา พร้อมกับสัมผัสกรุบ ๆ จากข้าวโอ๊ตและถั่วพีแคนที่ขึ้นชื่อเรื่องอาหารสุขภาพอยู่แล้ว อีกทั้งอาหารจานนี้ยังให้พลังงานแค่ 204 แคลอรี่ ไขมันอีก 7 กรัม เบา ๆ เท่านั้นเองนะจ๊ะ

สิ่งที่ต้องเตรียม

          ข้าวโอ๊ตปรุงสุก 1 ถ้วยตวง

          ฟักทองนึ่งสุก บดละเอียด 1/2 ถ้วยตวง

          ผง Spiced Pumpkin Pie 1 ช้อนชา

          ไข่ขาว 4 ฟอง (ใส่หรือไม่ใส่ก็ได้)

          ถั่วพีแคน 1/4 ถ้วยตวง

          น้ำเชื่อมเมเปิล สำหรับโรยหน้า
          

วิธีทำ


         1. ตุ๋นข้าวโอ๊ตตามวิธีทำข้างกล่อง พอข้าวโอ๊ตใกล้สุกได้ที่ให้รีบเทไข่ขาวลงไปกวนเร็ว ๆ ตามด้วยฟักทองบด และผง Spiced Pumpkin Pie คนผสมต่อไปเรื่อย ๆ จนกว่าส่วนผสมทุกอย่างจะเข้ากันดีและเป็นเนื้อเนียน

         2. ตักพายฟักทองใส่ถ้วยแต่งด้วยถั่วพีแคน ราดน้ำเชื่อมเมเปิล พร้อมเสิร์ฟ

............................................................................................




8. ไข่เบเนดิกต์กับอะโวคาโด(Avocado Eggs Benedict)

           ไข่เบเนดิกต์ชิ้นโตที่แน่นไปด้วยขนมปังมัฟฟิน เบคอน อะโวคาโด ผสมผสานรสชาติได้เข้ากันสุดขีด เรียกได้ว่ากัดคำไหนก็ฟินคำนั้น

สิ่งที่ต้องเตรียม

          ขนมปังมัฟฟิน 1 ชิ้น

          เบคอน 4 เส้น

          อะโวคาโด 1 ลูก

          ไข่ไก่ 4 ฟอง

          เกลือและพริกไทย


วิธีทำ


     1. ผ่าครึ่งขนมปังมัฟฟิน จากนั้นนำไปย่างจนเป็นสีน้ำตาล เตรียมไว้

     2. นำเบคอนย่างในกระทะจนสุกกรอบ เตรียมไว้

     3. ผ่าอะโวคาโดครึ่งลูก ตักเอาแต่เนื้ออะโวคาโดออกมาใส่ถ้วย ปรุงรสด้วยเกลือป่นและพริกไทยบด บดให้เข้ากันด้วยส้อม ตักทาลงบนขนมปังมัฟฟินทั้ง 2 ชิ้น ทับด้วยเบคอน เตรียมไว้

     4. นำกระทะขึ้นตั้งไฟ เทน้ำลงในกระทะ สูงประมาณ 2 นิ้ว ต้มจนเดือด ตอกไข่ไก่ใส่ถ้วย ใช้ช้อนคนน้ำให้วน จากนั้นเทไข่ไก่ใส่ลงตรงกลาง ต้มนานประมาณ 2 นาที จนไข่ขาวสุก ตักขึ้นสะเด็ดน้ำ วางลงบนขนมปัง โรยเกลือและพริกไทย พร้อมเสิร์ฟ


...........................................................................



9.พิซซ่าโฮลวีท(whole-wheat-pizza-crust)

                      สำหรับคนที่ชื่นชอบพิซซ่าแต่ก็อยากกินอาหารคลีน แนะนำให้ลองเมนูพิซซ่าโฮลวีทแท้ 100% จานนี้ค่ะ เพราะหนักทั้งเครื่องเน้น ๆ ทั้งแป้งโฮลวีทนุ่ม ๆ พร้อมรสชาติที่หากินจากร้านไหนก็คงไม่เหมือน เพราะเป็นโฮมเมดโฮลวีทพิซซ่านี่นะ

สิ่งที่ต้องเตรียม

          แป้งโฮลวีท (100%) 3 ถ้วยตวง

          น้ำเย็น 1 1/3 ถ้วยตวง

          ยีสต์ 1/2 ช้อนชา

          เกลือป่น 1 1/2 ช้อนชา

          น้ำตาลทรายไม่ขัดสี 2 ช้อนชา

          น้ำมันมะกอก 1 ช้อนโต๊ะ

          ซอสพิซซ่า

          ชีส

          ท็อปปิ้งตามชอบ สำหรับโรยหน้า


วิธีทำ


         1. ตีผสมแป้งโฮลวีท น้ำเย็นจัด ยีสต์ เกลือป่น น้ำตาลทราย และน้ำมันมะกอก เข้าด้วยกันจนเหนียว นำออกมานวดจนแป้งเหนียว จากนั้นนำแป้งไปแช่เย็นนาน 2-3 วัน เตรียมไว้

         2. เปิดเตาอบที่อุณหภูมิ 500 องศาฟาเรนไฮต์ เตรียมไว้ จากนั้นค่อยนวดแป้งเป็นแผ่นกลม ๆ ความหนาตามชอบ จากนั้นนำไปอบนานประมาณ 15 นาที

         3. นำแป้งออกจากเตาอบ ทาซอสพิซซ่าลงไปให้ทั่วแผ่น ตามด้วยชีสและท็อปปิ้งต่าง ๆ จากนั้นนำพิซซ่าไปอบต่ออีกประมาณ 10-15 นาทีเพื่อให้หน้าพิซซ่าสุก


.................................................................................




10. ไก่ย่างซอสน้ำผึ้งมะนาว (Grilled Honey Lime Chicken Breast)

             ไก่ย่างเนื้อนุ่ม ๆ หอมกรุ่นเนื้อไก่เคล้าความหอมหวานจากน้ำผึ้ง พร้อมด้วยกลิ่นไซตรัสจากมะนาวที่แอบแทรกรสชาติเปรี้ยวเข้าเนื้อไก่อย่างพอ ดิบพอดี กลายเป็นสูตรไก่ย่างรสชาติกลมกล่อม ได้ทั้งรสอร่อยและสุขภาพดี ๆ

สิ่งที่ต้องเตรียม

          น้ำมะนาวคั้นสด 2 ลูก

          น้ำผึ้ง 1/2 ถ้วยตวง

          วูสเตอร์ซอส หรือ ซอสเปรี้ยว 2 ช้อนโต๊ะ

          เกลือป่น 1 ช้อนชา

          พริกไทยดำบด 1 ช้อนชา

          ยี่หร่า 1/2 ช้อนชา

          อกไก่ลอกหนัง 4-6 ชิ้น


วิธีทำ


         1. ใส่น้ำมะนาว น้ำผึ้ง วูสเตอร์ซอส เกลือป่น พริกไทยดำบด และยี่หร่า ลงในถุงมัดปาก แล้วเขย่าจนเครื่องเข้ากันดี เตรียมไว้

         2. นำเนื้อไก่มาคลุกเคล้ากับเครื่องปรุงให้ทั่ว แล้วนำไปแช่ตู้เย็นทิ้งไว้ 4 ชั่วโมงเป็นอย่างต่ำ

         3. นำเนื้อไก่ไปย่าง นานประมาณ 8-10 นาที พลิกกลับไปมาจนกว่าไก่จะสุกอย่างทั่วถึง

         4. ก่อนเสิร์ฟตักน้ำผึ้งราดเติมลงไปอีกสักนิด และตกแต่งด้วยมะนาวฝานเพื่อความสวยงาม